Kamin MIT Diary #7
เอาเท้าก่ายหน้าผาก.
เพราะอีก 2 วันจะต้องบินไปเล่นในคอนเสิร์ตรวมฮิต Bakery Music กับพี่นภ พรชำนิ, พี่ป๊อด Moderndog, พี่ก้อ P.O.P./Groove Rider และพี่โอ่ง Mellow Motif
เรื่องของเรื่องคือ มุกและพี่โอ่งเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ที่มหาลัย Carnegie Mellon
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปคุยท่าไหนพี่โอ่งเลยชวนให้เล่นด้วยกัน
เรื่องของเรื่องคือพี่โอ่งเคยถามไว้นานแล้ว ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าพี่เขามาเล่นหรือมาจริง แต่ใจนั้นได้แต่ให้เธอไปหมดแล้ว ครุ่นคิดประมาณ 2.4 วิก็ตกปากรับคำ ได้ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับผม
เวลาผ่านมาเนิ่นนาน ด้วยความที่ผมงานยุ่งสุดๆจนฉุดไม่อยู่ถึงอาทิตย์สุดท้ายของเทอม ซึ่งเป็นอาทิตย์นรกแตก คืออะไรๆก็มาแตกเวลานี้ เราก็เลยไม่ได้ตามว่าอะไรยังไง
วันพุธมี Final Presentation สายพี่โอ่งก็โทรเข้ามา
“มาแจมกัน ขำๆ เล่นวันเสาร์นี้นะ”
พร้อมกับ List เพลง 20 กว่าเพลง
กูว่าแล้วววว
ได้ครับพี่ พลางเหลือบไปมองคีย์บอร์ดจิ๋วฝุ่นเกาะที่อุตส่าห์แบกมาจากไทยเมื่อ 12 เดือนที่แล้ว ไอ้เราก็ไม่ได้เล่นดนตรีออกงานกะเขามาอย่างนาน บวกกับต้องไปเล่นกับนักดนตรีซึ่งเป็นระดับปรามาจารย์ เยี่ยวจะราด
เอาวะ ลุย
วันศุกร์ก่อนเล่น 1 วันเพิ่งมีเวลานั่งแกะเพลง โอ้โห แล้วคือเพลงพี่บอยด์ โกษิยพงศ์แต่ละเพลง เปลี่ยนคีย์กันเป็นว่าเล่น จะเปลี่ยนอะไรกันขนาดนั้นนนนน
พอถึงวันจริง รถ Megabus ออกประมาณเที่ยง ไปถึงก็เกือบ 5 โมงเย็น ซึ่งเราก็ติดต่อพี่เก่งฉกาจ พี่มือคีย์บอร์ดจาก TTJC 2017 ซึ่งแค่ชื่อก็น่าขยาดกลัวละว่า พี่ครับ อย่างน้อยจะมีการซ้อมกันก่อนไหมครับ จะได้นัดแนะท่อนเทิ่น ซึ่งพี่เขาก็ขำแห้งๆว่าไม่น่าจะมี
เลยไปนั่งจดท่อนกับพี่เขาบนเตียงในโรงแรม อารมณ์เหมือนเด็กที่นั่งจดโพยก่อนเข้าห้องสอบ
นี่นะ ท่อนนี้เล่นงี้ แท่น แทน แท๊น
ส่วนเพลงนี้เหรอ เออพี่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเปลี่ยนคีย์ตอนไหน ลองตามๆไปแล้วกัน
ครับ.
ขึ้นรถจากโรงแรมไปที่คอนเสิร์ต พี่ก้อนั่งรถมาด้วย เลยถามพี่ก้อไปว่าใน List เพลงมันมีพวก Interlude ตอนต้นและกลางคอนเสิร์ตนี้จะเล่นอะไรเหรอครับ
“ก้อ (ก็) ไม่รู้เหมือนกัน”
ไปถึงที่งาน ไอ้เราก็ยังเขินๆพี่ป๊อด พี่นภ พี่ก้อ ซึ่งกว่าที่เราจะเริ่มดูดนม พี่ๆเขาก็เป็นตำนานไปละ มือไม้สั่นเงิ่กๆเดินเข้าไปสวัสดีพี่เขา
แล้วคือมันมี moment awkwardๆ เกิดขึ้น ณ จังหวะที่พี่นภเดินเข้ามาจับมือขอบคุณเราที่มาช่วยเล่นให้ ด้วยความตกใจ ในมือเราก็ส่งขวดน้ำแร่ที่ถืออยู่ไปให้พี่เขา
อุบาทว์จริงๆ ไอ้คามิน
ส่วนพี่ป๊อดนี่ไม่ต้องพูดถึงเพราะคือรุ่นพี่สวนกุหลาบในตำนานที่สมควรจะถูกเลี่ยมทองไว้แขวนคอ เข้าไปเราก็แนะนำตัว ไหว้แล้วไหว้อีกจนคิดว่าถ้ามีพวงมาลัยก็น่าจะดี
ยัง ยังไม่หมด
10 นาทีก่อนขึ้นเล่น
ทุกคนก็ถามพี่นภว่า สรุป Interlude เล่นอะไร พี่นภบอกว่าอ่อ เดี๋ยวน้องเก่งฉกาจ กับน้องคามินขึ้นมาก่อนเลยนะ เล่น ตุ่ง ตุง ตุ๊ง โปรยๆเหมือนเชื้อเชิญให้คนรู้ว่าเรากำลังจะเริ่มกันแล้ว
ผมกับพี่เก่งมองหน้ากัน แววตากลวงโบ๋ว เล่นไรดีฟะ 555
แต่ใจผมไม่หวั่นมากเพราะรีบโบ้ยให้พี่เขาก่อน ตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
“พี่เก่งเล่นไปเลยนะครับ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมตามเอง”
พี่เขาทำหน้ามึนๆตามภาษาพี่เขา ตบไหล่ผม แล้วก็พยักหน้างึกๆ
ไม่รู้พี่เขาสั่นหัวเพราะเมาเบียร์กระป๋องที่เพิ่งซดกึกรึเปล่า แต่ผมถือว่าพี่ตกลงละกัน
5 นาทีก่อนขึ้นเล่น
พี่คม มือกลองเดินมา
“น้องคามิน รู้เปล่า ทำไมนักฟุตบอลไม่สัก”
“ไม่รู้ครับพี่ (ถามทำไมอ่ะ)”
“อ่อ เดี๋ยวมันยิงไม่เข้า”
“…. (สมาธิกรูกระเจิงหมดแล้วเว้ยยย)”
เอิ่ม เพิ่งมารู้ทีหลังว่าพี่เขาเป็นอาจารย์ที่อยู่มหิดล โอ้โห ส่วนพี่ต๊ะมือกีต้าร์ ก็ดีกรีไม่ได้จะแพ้กันเท่าไรเพราะเล่น back up ให้ศิลปินเต็มไปหมด
สุดท้ายพอขึ้นเวที ท่อนเทิ่นก็ลืมหมด เพราะไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น มีเท่าไรใส่เข้าไป ที่สำคัญปกติเคยดูแต่คลิปพี่โอ่งร้อง jazz มาวันนี้คือร้องป๊อบอย่างเพราะ
รู้ตัวอีกทีก็จบคอนเสิร์ตซะแล้ว
นี่สินะ ที่เขาว่าเวลาความสุขมักผ่านไปเร็ว