มีใครชอบบอกว่าตัวเป็นคนที่ใช้ Logic ในการดำเนินชีวิต ไม่ค่อยใช้อารมณ์บ้างไหมครับ บางคนรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อย Emotional เหมือนใคร ๆ เขา อย่างงี้แสดงว่าเราเป็นคนมีเหตุผลมีผล มีสติ คิดอะไรตามข้อเท็จจริงมากกว่าคนอื่นรึเปล่า จริง ๆ มีงานวิจัยที่บอกถึงการทำงานในสมอง โดยกล่าวถึงเวลาที่เราไม่ Sense ถึงอารมณ์ตัวเองนั้น มันอาจจะไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอารมณ์อยู่ข้างใน
แต่อาจจะเป็นการ Suppress ที่ทำให้มันแอบไปหลบอยู่มุมห้อง หรือเบาะหลัง และเมื่อเราทำแบบนั้นบ่อย ๆ วันนึงเราอาจจะไม่ Aware ถึงการมีตัวตนของมัน และนึกว่าเราไม่มีอารมณ์เลยก็เป็นไปได้
แล้วถามว่าตรงนี้มันสร้างผลเสียอะไรได้บ้าง
ไฉนมันถึงกลับตาลปัตร กลายเป็นว่า คนที่ใช้แต่ Logical Thinking ไม่ใช้อารมณ์ อาจจะตกหลุมพราง และนำพาไปสู่การตัดสินใจที่ไม่มีเหตุมีผล (Irrationality) ก็เป็นไปได้
ไปอ่าน Paper ตัวนึง เขาพูดถึงสมองคนเรา หลายครั้ง Drive จาก Emotion มันมีความรุนแรนจนสามารถ Override ความเป็นเหตุเป็นผลของเราได้ไม่ยาก
เอ๊ะ แต่นั้นก็ยังไม่ได้ตอบคำถามของเราอยู่ดี ฟัง ๆ ดู ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ยิ่งไม่มีอารมณ์ ก็ยิ่งดีรึเปล่านะ
แต่เอาเข้าจริง Emotion มันมีอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่หลายคน Suppress มันในรูปแบบต่าง ๆ เท่านั้นเอง อารมณ์เหมือนกับเราลด Volume แค่นั้นแหละ จนหลายครั้งเราไม่ได้ Aware ว่ามันทำงานอยู่ข้างหลังแบบแนบเนียน
มันถึงมีคำว่า Rationalization
ซึ่งคือการที่ Emotional Brain มัน Hijack สมองส่วน Logic อย่างแนบเนียน โดยการสรรหาคำอธิบาย หรือเหตุผลมาสนับสนุนการกระทำของตัวเอง คือมันแนบเนียนจนตัวเองก็นึกว่า เห้ย มันก็ฟังดูถูกต้อง เป็นเหตุเป็นผลนี่นา
เอาตัวอย่างง่าย ๆ สมมติเราโดนใครปฏิเสธ เพื่อที่จะเลี่ยงความรู้สึกอับอาย (Shame) กลายเป็นว่าสมองเราบอกว่า เห้ย ก็ดีแล้ว เราก็ไม่ได้อยากจะยุ่งกับนายซะเมื่อไร จะว่าไปนายก็ไม่มีคนคบอยู่แล้วนี่ นิสัยเสียอย่างงี้ ตอนแรกอุตส่าห์ทำบุญ อุตส่าห์ยอมคบด้วย แต่มาปฏิเสธเราแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถือว่าเรารอดตัวไป เพี้ยง
…ว่าไปนั่น
ตรงนี้แหละที่น่ากลัว
แล้วที่มันแนบเนียนเพราะอะไรรู้ไหม เวลาที่เรา Rationalization ส่วนใหญ่ พวกเหตุผลที่มันผุดขึ้นมามันก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียวหน่ะสิ คือมีความจริง มี Fact มีเหตุมีผลอยู่…
แต่แค่มัน “Selective” เฉย ๆ คือสมองเราเลือกที่จะรับเหตุผลอะไรก็ได้ ที่ทำให้เราไม่ต้องเข้าไป Fight หรือเผชิญหน้ากับอารมณ์ของตัวเองข้างในที่เราไม่กล้าจะเข้าไปแตะมัน และก็เลือกที่จะ Ignore ความจริงข้อโต้แย้งอะไรที่มันไม่ Convienient ออกไปให้หมด เพื่อจะได้เหลือแต่อะไรที่เข้าข้าง Argument ตัวเอง
แสบไหมหล่ะ
ฟังแล้วก็อย่าเพิ่งไปนึกถึงคนอื่น ว่าโหย ฟังแล้วนึกถึงคนนู้นคนนี้เลย กับตัวเราเองเนี่ยแหละก็มีสิทธิเป็นเหมือนกันโดยไม่รู้ตัว! จงระวัง!
โดยเฉพาะใครที่เป็นคนเรียบเรียงความคิดดี โต้วาทีเก่ง ก็มักจะนึกว่าตัวเองเป็นคนมีเหตุเป็นผล โดยเฉพาะกับคู่ที่มีแฟน Emotional บางคู่เถียงกันทีไร มีอยู่ฝ่ายนึงที่ชนะทุกครั้งจนอาจจะนึกว่าตัวเองมี Logic มากกว่า และถูกต้องตลอด แต่จริง ๆ ต้องแยกกัน บางทีที่ชนะคือมันเป็นเพราะ Debating Skill เฉย ๆ
เอาง่าย ๆ สมัยผมเป็นนักแข่งโต้วาทีที่วิศวะจุฬา ต่อให้หัวข้อญัตติที่ฟังดูไม่ Make Sense สุด ๆ เราก็สามารถ Debate ให้ชนะ ให้ดูมีเหตุผลได้
เพราะฉะนั้น Debating Skill ≠ Logical Thinking (คือมันมีความ Related แต่ไม่ซะทีเดียว)
ถ้ารู้อย่างงี้แล้วก็ Embrace Emotion และพยายาม Aware มันให้ดี
บางทีเราเลี่ยงความรู้สึกและกลบมันไว้ เพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัว กลัวว่าจะทำให้ครอบครัว คนที่คุณรัก หรือตัวเองผิดหวัง จนมันไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงมัน หรือไม่ก็ปฏิเสธการมีตัวตนของมันไปเลบ
จริง ๆ แค่ Aware และ Sense Emotion มันให้ได้ (โดยเฉพาะ Emotion ที่เราไม่อยากแตะ ไม่อยากยอมรับ) แค่นี้ ก็ถือว่าสำเร็จไปครึ่งทางแล้ว เมื่อเรา Aware และ ทนกับมันได้ (Tolerate) เมื่อนั้น มันอาจจะทำให้เรา Selective หรือปิดตาข้างเดียวน้อยลง เวลาคิดหรือตัดสินใจอะไรก็จะมีสติมากขึ้น
ก็หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
ปล. ถ้าคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืม Share ให้เพื่อน ๆ ได้นะครับ และก็ฝากติดตาม Product Mixtape ด้วยนะครับ ตอนนี้ผม Explore คอนเท้นหลายรูปแบบ หลายช่องทางเลยครับ สามารถไปตามใน Website, Facebook, Instagram, TikTok, Medium, YouTube, ช่องทาง Podcast ต่าง ๆ เช่น Spotfiy หรือ Apple/Google Podcasts แต่ละช่องทางอาจจะมีคอนเท้นเหมือนกันบ้างไม่เหมือนกัน ยังไงก็อาจจะเลือกช่องทางที่เพื่อน ๆ ชอบเสพย์เป็นพิเศษก่อนก็ได้ครับ แต่ถ้าตามทุกช่องทางก็จะได้เก็บทุก Easter Egg ครับ ยังไงก็ขอบคุณมาก ๆ ที่ติดตามนะครับ!